รถร่วมถก “ขสมก.” แก้รถเมล์ไม่พอรับเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หวั่นคนใช้เพิ่ม
นายบรรยงค์ อัมพรตระกูล ประธานสหพันธ์ รถเมล์ กทม. และ ปริมณฑล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (30 ก.ย.65) ได้มาปรึกษาหารือกับนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เนื่องจากรัฐบาลได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ส่งผลให้ประชาชนกลับมาเดินทางตามปกติและเพิ่มมากขึ้น ขณะที่รถโดยสาร (รถเมล์) ที่ให้บริการที่เป็นรถร่วม ขสมก. จากเดิมมีให้บริการ 5,000 คัน แต่ปัจจุบันเหลือ 1,500 คัน ส่วนอีก 3,500 คัน ทยอยเลิกกิจการไป เนื่องจากได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และราคาน้ำมันที่สูงต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันพบว่า ขณะนี้ผู้โดยสารใช้บริการ 200 คนต่อคันต่อวัน มีรายได้ 4,000 บาทต่อคันต่อวัน ขณะที่ต้นทุนเดินรถทั้งรถมินิบัส และ รถเมล์ใหญ่อยู่ที่ 5,000 บาทต่อคันต่อวัน ทำให้ขาดทุนวันละ 1,000 บาทต่อคันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายบรรยงค์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการรถร่วมบริการยังมีสัญญาร่วมกับ ขสมก. ขณะนี้มีผู้ประกอบการรวม 55 บริษัท แบ่งเป็นผู้ประกอบการให้บริการรถโดยสารขนาดใหญ่ (รถเมล์) 25 บริษัท และ ให้บริการรถมินิบัส 30 บริษัท ซึ่งเมื่อเทียบกับเมื่อก่อนมีผู้ประกอบการรวม 112 บริษัท แบ่งเป็น ผู้ให้บริการรถเมล์ใหญ่ 76 บริษัท และ มินิบัส 36 บริษัทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
สำหรับผู้ประกอบการรถร่วมนี้ได้ให้บริการ 70 เส้นทางภายใต้สัญญาเดิม ของ ขสมก. และอยู่ใน 107 เส้นทางที่ ขสมก. ได้รับใบอนุญาตประกอบการเดินรถจากกรมการขนส่งทางบก (ขบ.)
นายบรรยงค์ กล่าวอีกว่า ดังนั้นจึงหารือกับ ขสมก. เพื่อเตรียมแผนรองรับการเดินทางในจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต รวมทั้งแก้ปัญหารถเมล์ที่ให้บริการในปัจจุบันที่ขาดแคลนไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้โดยสาร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการเดินทาง ทั้งนี้ไม่ต้องการให้ ขสมก. มาเดินรถกับเอกชนรายเดิมที่ยังให้บริการเดินรถร่วมกับ ขสมก. อยู่ โดยขอให้ ขสมก. เดินรถเฉพาะเส้นทางที่ ขสมก. ได้รับใบอนุญาตประกอบการเดินรถเท่านั้น
ซึ่งเส้นทางเดินรถที่ ขสมก. เดินร่วมกับเอกชนรถร่วม เช่น สาย 12 ห้วยขวาง-ปากคลองตลาด อยากให้ ขสมก. นำรถออกจากระบบเลย แล้วนำไปวิ่งเส้นทางที่รถเมล์ขาดระยะ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารต่อไป รวมทั้งขอให้ ขสมก. พิจารณาต่อสัญญาในการเดินรถ จากเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ขอให้ขยายเวลาออกไปอีก 1 ปี หรือสิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.66 ซึ่งขณะนี้แม้จะเข้าสู่การปฎิรูปเส้นทางรถเมล์แล้ว แต่มีผู้ประกอบการรถร่วมหลายรายยังมีสัญญากับ ขสมก. อยู่ และ ขสมก. ได้มีการผ่อนผันให้ผู้ประกอบการรายเดิมยังเดินรถร่วมอยู่ได้ จนกว่าจะเข้าสู่ระบบการปฏิรูปอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งนี้เพื่อความเป็นธรรมและบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประกอบการรายเดิม