ประการแรกคือ ความเพลี่ยงพล้ำสมรภูมิรบที่เมืองอัฟดีฟกาทางภาคตะวันออก ซึ่งอาจทำให้รัสเซียกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบและรุกคืบหรือริเริ่มเปิดปฏิบัติการโจมตีเพิ่มได้

ประการที่สองคือ สินค้าเกษตร ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกและสายป่านทางเศรษฐกิจเส้นสำคัญของยูเครนและกำลังเผชิญการต่อต้านอย่างหนักจากเกษตรกรของชาติพันธมิตรอย่างโปแลนด์

ล่าสุด โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้ออกมาเสนอให้รัฐบาลโปแลนด์เจรจาร่วมกับยูเครนแล้ว หลังเกษตรกรโปแลนด์ออกมาประท้วงปิดถนนตามแนวชายแดนแทบทั้งหมดที่อยู่ติดกับยูเครน

“ปูติน” ออกกฤษฎีกาจูงใจชาวต่างชาติ ได้สัญชาติรัสเซีย หากร่วมกองทัพสู้รบในยูเครน

ยูเครน-รัสเซีย ส่งสัญญาณสู้รบเดือดรับปี 2024

วานนี้ 21 ก.พ. ระหว่างการแถลงประจำวัน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้ออกมากล่าวเกี่ยวกับการประท้วงปิดถนนบริเวณชายแดนของเกษตรกรโปแลนด์ที่ยกระดับขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

โดยได้เรียกร้องให้ โดนัลด์ ตุสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์คนใหม่ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว พร้อมคณะรัฐมนตรี ร่วมเจรจากับรัฐบาลยูเครนที่พรมแดนระหว่างยูเครนและโปแลนด์โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

นอกเหนือไปจากผลกระทบและความเสียหายทางเศรษฐกิจแล้ว ประธานาธิบดีเซเลนสกียังระบุว่าการปิดเส้นทางยังส่งผลกระทบต่อการขนส่งลำเลียงอาวุธไปสู่มือทหารยูเครนที่แนวรบด้วย เพราะโปแลนด์คือทางผ่านที่ใช้ขนส่งอาวุธต่างๆ ไปสู่ยูเครน

ยิ่งไปกว่านั้น ประธานาธิบดีเซเลนสกียังกล่าวว่า ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อความเป็นหนึ่งเดียวทางความมั่นคงระหว่างยูเครนและโปแลนด์ และมีเพียงรัสเซียเท่านั้นที่จะยินดีต่อความขังแย้งที่กำลังดำเนินอยู่

การออกมาเรียกร้องเปิดเจรจาร่วมกับรัฐบาลโปแลนด์ของประธานาธิบดีเซเลนสกี เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากกลุ่มเกษตรกรชาวโปแลนด์ยกระดับการประท้วงปิดจุดผ่านแดนบริเวณชายแดนโปแลนด์-ยูเครนแทบทุกจุด รวมถึงท่าเรือตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นับตั้งแต่รัสเซียเปิดสงครามรุกรานยูเครนเมื่อปี 2022 และส่งเรือไปปิดล้อมทะเลดำซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญที่ยูเครนใช้ในการส่งออกสินค้าเกษตรไปสู่ตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี ธัญพืช ข้าวโพด หรือเมล็ดทานตะวัน ถนนและรางรถไฟของโปแลนด์กลายเป็นอีกทางผ่านสำคัญที่ช่วยให้ยูเครนสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์เกษตรได้

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาเกษตรกรโปแลนด์ไม่พอใจสินค้าเกษตรจากยูเครน เนื่องจากสหภาพยุโรปได้ออกมาตรการยกเว้นภาษีนำเข้า เพื่อช่วยเหลือยูเครนที่กำลังลำบากจากภาวะสงคราม โดยสินค้าเกษตรยูเครนที่ไหลทะลักเข้ามาสู่พรมแดนสหภาพยุโรป ที่โปแลนด์เป็นสมาชิกมีราคาถูกกว่า เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า รวมถึงไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบมาตรการด้านสินค้าเกษตรที่คุมเข้มของสหภาพยุโรป

การได้รับการยกเว้นภาษีทำให้สินค้าของยูเครนมีราคาต่ำ เป็นผลทำให้เกษตรกรโปแลนด์แข่งขันด้านราคาได้ยากขึ้น ขณะเดียวกัน เกษตรกรชาวโปแลนด์ยังต้องปรับตัวกับกระบวนการผลิตให้ได้ตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรป ซึ่งเพิ่มต้นทุนและความยากลำบากให้แก่เกษตรกรชาวโปแลนด์

นี่จึงเป็นสาเหตุที่เกษตรกรชาวโปแลนด์ออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งยกระดับการประท้วงไปสู่การเคลื่อนรถบรรทุกและรถแทร็กเตอร์ปิดจุดผ่านแดนตลอดบริเวณชายแดนโปแลนด์-ยูเครนแทบทั้งหมดนับตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา

จุดหนึ่งที่การประท้วงเป็นไปอย่างดุเดือดคือ ที่จุดผ่านแดน ‘เมดีกา-เชฮีนี’ ที่ชายแดนทางตะวันตกเฉียงใต้ในภูมิภาคลุบลินของโปแลนด์ โดยมีรายงานว่าเกษตรกรชาวโปแลนด์ได้เทธัญพืชที่ผลิตในยูเครนลงพื้นเพื่อเป็นการประท้วงด้วย

การประท้วงปิดจุดผ่านแดนระหว่างโปแลนด์-ยูเครนยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ เกษตรกรชาวโปแลนด์พร้อมขบวนรถแทร็กเตอร์และรถบรรทุกยังคงปักหลักปิดทางหลวงอย่างเนืองแน่น นี่คือภาพส่วนหนึ่งของการประท้วงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ที่เมืองแห่งหนึ่งใกล้กับชายแดนยูเครน ผู้เข้าร่วมประท้วงยังคงยืนยันข้อเรียกร้องเดิมว่า ต้องการให้หยุดการนำเข้าสินค้าเกษตรจากยูเครน และยกเลิก ‘กรีนดีล’ ของสหภาพยุโรป

ที่ผ่านมา โปแลนด์ถือเป็นพันธมิตรที่สนับสนุนยูเครนในการทำสงครามต้านทานรัสเซียอย่างเหนียวแน่นมาโดยตลอด โดยเฉพาะการสนับสนุนด้านอาวุธ อย่างไรก็ตาม รอยร้าวระหว่างสองพันธมิตรจากปัญหาสินค้าเกษตรเกิดขึ้นในวันที่สถานการณ์ทางฝั่งยูเครนไม่สู้ดีนัก

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ยูเครนเพิ่งจะเสียอัฟดีฟกาซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญในแคว้นโดเนตสก์ให้กับรัสเซีย หลังจากนั้น รัสเซียส่งสัญญาณเดินหน้ายึดเมืองที่เหลือในแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของยูเครนให้หมด และมีแผนจะลงไปยึดเมืองที่เหลือในแคว้นซาโปริซเซียและเคอร์ซอน ซึ่งอยู่ทางใต้ด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลรัสเซียประกาศว่าอาจกลับไปยึดเมืองหลวงยูเครน หลังล้มเหลวไปในรอบแรก ขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของรัสเซีย หลังยึดอัฟดีฟกาในแคว้นโดเนตสก์ได้

แคว้นโดเนตสก์อยู่ทางตะวันออกของยูเครน เป็นหนึ่งในดินแดนที่รัสเซียตั้งเป้าหมายยึดให้ได้ หลังการทำสงครามในเฟสแรกไม่ประสบผลสำเร็จ สงครามเฟสแรกของรัสเซีย เริ่มขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2022 เป้าหมายในขณะนั้นคือ ยึดยูเครนให้ได้ทั้งประเทศรวมกรุงเคียฟ เมืองหลวง อย่างไรก็ตาม ยูเครนได้ตอบโต้กลับอย่างหนัก จนกองทัพรัสเซียต้องล่าถอย หลังล้อมกรุงเคียฟอยู่นานกว่า 1 เดือน

หลังจากนั้น กองทัพรัสเซียหันไปประกาศทำสงครามในเฟส 2 ที่มีเป้าหมายที่ทะเยอทะยานน้อยกว่า นั่นก็คือ การยึด 4 แคว้นของยูเครนแทน แคว้นที่เป็นเป้าหมายของสงครามเฟส 2 คือ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออก รวมถึงซาโปริซเซีย และเคอร์ซอนซึ่งอยู่ทางตอนใต้ ในช่วงเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา หลายเมืองใน 4 แคว้นนี้ คือ แนวหน้าในการสู้รบภาคพื้นดินของรัสเซียและยูเครนการสู้รบเป็นไปอย่างดุเดือด ทั้ง 2 ฝ่ายเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบอย่างมีนัยสำคัญ

จนกระทั่งเข้าต้นปี 2024 กองทัพยูเครนอ่อนแรงลง เนื่องจากขาดแคลนอาวุธ จนกลายเป็นการเปิดช่องให้รัสเซียโหมโจมตีจนยึดอัฟดีฟกา เมืองยุทธศาสตร์สำคัญในแคว้นโดเนตสก์สำเร็จ หลายฝ่ายระบุว่า นี่คือชัยชนะที่สำคัญที่สุดของรัสเซีย

ในรอบ 9 เดือน เมื่อคืนที่ผ่านมา มีภาพของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สั่งการให้กองทัพเตรียมกำลังและอาวุธให้พร้อม เพื่อยึดเมืองที่เหลือของแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ให้หมด

ทหารยูเครนซึ่งตรึงรัสเซียอยู่ทางด้านนี้ระบุว่า การโจมตีจากรัสเซียหนักมากขึ้นในรอบ 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา และมีการคาดการณ์ว่ารัสเซียจะขยายการโจมตีใหญ่จากแนวตะวันออกไปทางแคว้นบริเวณภาคใต้ด้วย ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์ว่า

รัสเซียจะหยุดการทำสงครามหากบรรลุเป้าหมายในการทำสงครามเฟส 2 นั่นก็คือ การยึดโดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาโปริซเซียและเคอร์ซอนได้อย่างสมบูรณ์

ล่าสุด ดมิทรี เมดเวเดฟ สมาชิกสภาความมั่นคงแห่งชาติและอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ได้ออกมาระบุว่า กองทัพรัสเซียอาจจะไม่หยุดอยู่แค่ 4 แคว้นนี้ เป้าหมายสูงสุดของของรัสเซีย คือการยึดกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนตามที่เคยตั้งใจไว้ในตอนแรก

ในวันที่สงครามในยูเครนกำลังเข้าสู่จุดสุ่มเสี่ยงจนฝ่ายรัสเซียเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียก็ออกมาปรากฏตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อวานนี้ ประธานาธิบดีรัสเซียได้เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องบินที่เมืองคาซาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย

วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียได้ไปปรากฏตัวที่ ‘โรงงานผลิตเครื่องบินคาซาน’ ที่เมืองคาซาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซีย ก่อนที่จะเข้าร่วมพิธีเปิดงานแข่งขันกีฬา "Future Games”ที่นี่เป็นโรงงานที่ผลิตทั้งเครื่องบินที่ใช้ในทางการทหารและในกิจการพลเรือนคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

อย่างไรก็ดี เครื่องบินลำที่ประธานาธิบดีรัสเซียตรวจเยี่ยมชมและขึ้นไปนั่งนั้น คือเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ TU-160 ซึ่งมีศักยภาพในการทิ้งหัวรบนิวเคลียร์ด้วย โดยขณะนี้มีเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นดังกล่าว 4 ลำ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการปรับแต่งให้ทันสมัยที่โรงงานแห่งนี้

Air Japan แจงเหตุยกเลิกเที่ยวบิน อากาศยานขัดข้อง คาดเปิดให้บริการ 23 ก.พ.นี้

สรุป 16 ทีมสุดท้าย ยูโรป้า ลีก ลิเวอร์พูล มีโอกาสจับเจอทีมใด

กางปฏิทิน เงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างประจำ จ่าย 2 รอบ ปี 2567